บลอกอาจารย์โจ้

Posts tagged ‘ประตูนรก’

TES4 Oblivion ตอนที่ 31 ปิดฉากสงครามแห่งยุค (ตอนอวสาน)

ความเดิมตอนที่แล้ว (ตอนที่ 30)

เราบุกเข้าไปยังโลกเสมือนที่แมนการ์ คาโมแรนสร้างขึ้นด้วยเวทย์มนต์ของมาร์ตินและสิ่งของทรงพลังหลายชิ้น ที่ได้รวบรวมมาตั้งแต่ต้น

ในที่สุดเราก็ได้เครื่องรางแห่งกษัตริย์มาจากคอของแมนการ์ คาโมแรนมาให้มาร์ติน

จักรพรรดิ์มาร์ติน เซ็บติม

จักรพรรดิ์มาร์ติน เซ็บติม

การที่มาร์ตินสามารถสวมใส่เครื่องรางแห่งกษัตริย์เป็นเครื่องยืนยันที่ดีว่าเขาคือเชื้อสายของจักรพรรดิ์อูเรียล เซ็บติม ผู้ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากไทเบอร์ เซ็บติม ผู้ซึ่งมีสายเลือดแห่งมังกร และได้กลายเป็นเทพอาคาทอส

สิ่งที่เราต้องทำเพื่อหยุดยั้งการบุกรุกจากนรกโดยเทพอสูรเมรูน ดากอน คือการไปจุดไฟแห่งมังกรที่วิหารแห่งผู้ถูกเลือกในเมืองหลวง

สงครามกลางเมือง

เทพอสูรเมรูน ดากอน

ระหว่างที่มาร์ตินได้รับการต้อนรับจากนายกรัฐมนตร์ออคาโต้ ทหารก็กระหืดกระหอบเข้ามาบอกว่าพวกอสูรกำลังบุกเมืองหลวง

มาร์ตินสั่งให้ทหารรวมกำลังกันเปิดทางให้มาร์ตินไปจุดไฟแห่งมังกรเพื่อขับไล่เหล่าอสูรไป

แต่ดูเหมือนจะสายเกินไป…เพราะเทพอสูรเมรูน ดากอน ได้มาอยู่บนโลกนี้แล้ว และการจุดไฟแห่งมังกรก็ไม่สามารถขับไล่เทพอสูรได้แล้ว

พลังแห่งเทพ และเลือดแห่งกษัตริย์

ผสานพลังแห่งเทพ

มาร์ตินบอกว่ามันสายไปแล้ว เพราะเมื่อเทพอสูรปรากฎตัวบนโลกแล้ว จะไม่มีอาวุธบนโลกใดที่จะสามารถสังหารหรือทำอันตรายเทพอสูรได้

แต่ทันใดนั้นมาร์ตินก็เปิดไอเดียใหม่ขึ้นมา และสั่งให้เราพาเข้าไปในวิหารแห่งผู้ถูกเลือกอยู่ดี

ท่ามกลางความโกลาหล และคำร่ำลา เทพอสูรก็พังวิหารเข้ามา ในขณะที่มาร์ตินยืนอยู่กลางวิหาร …และส่องแสง?

มาร์ติน เซ็บติม ทำลายเครื่องรางแห่งกษัตริย์ และปลดปล่อยพลังของเทพอาคาทอสสู่โลกภายนอก พร้อมทั้งเปลี่ยนตนเองให้กลางเป็น “มังกร”

ร่างอวตารแห่งเทพอาคาทอสปะทะเทพอสูร

สิ่งที่มาร์ตินคิดก็คืออาวุธที่สามารถกำจัดเทพอสูรไปได้ ย่อมต้องเป็นสิ่งที่มีพลังอำนาจทัดเทียมกัน และนั่นทำให้มาร์ตินอาศัยพลังของเครื่องรางแห่งกษัตริย์ เปลี่ยนตนเองให้เป็นร่างอวตารของเทพอาคาทอส

ร่างมังกรของมาร์ตินปะทะเทพอสูรอย่างดุเดือด และดูเหมือนเทพอสูรจะไม่สามารถต้านทานพลังของเทพมังกรได้ และได้สลายไปหลังจากโดนไฟมังกรเผาผลาญ

สิ้นสุดวิกฤตแห่งประตูนรก

ตอนอวสาน

เมื่อเทพอสูรสลายไป ร่างมังกรอวตารก็พลันแปรสภาพเป็นหิน ตั้งตระหง่านอยู่ในที่ซึ่งเคยเป็นวิหารแห่งผู้ถูกเลือกกลางเมืองหลวงแห่งแคว้นไซโรดิล

นายกรัฐมนตรีออคาโตเข้ามาเห็นสภาพดังกล่าวก็ดีใจที่วิกฤตการณ์ประตูนรกได้สิ้นสุดลง จะไม่มีประตูนรกเปิดขึ้นที่ไหนอีกต่อไปบนพื้นพิภพแห่งนี้

การสูญเสียจักรพรรดิ์ไปอีกครั้งถือเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ เพราะคราวนี้ไม่มีผู้ที่มีสายเลือดแห่งเซ็บติมหลงเหลืออีกต่อไป

นายกรัฐมนตรีออคาโตแต่งตั้งให้เราเป็นแชมเปี้ยนแห่งแคว้นไซโรดิล และจะมอบชุดเกราะแห่งทหารมังกรให้ในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า (เพราะต้องสั่งทำใหม่) ซึ่งชุดเกราะนี้เป็นสิ่งที่องค์จักรพรรดิ์จะเป็นผู้สวมใส่ได้เท่านั้น และออคาโตเห็นว่าสิ่งที่เราได้ทำให้กับโลกนี้คู่ควรแก่ชุดเกราะอันสูงส่งอย่างไม่มีข้อสงสัย

จบบริบูรณ์

ชุดเกราะอัศวินมังกร

หลังจากนั้นสองสัปดาห์ ก็ไปรับชุดเกราะอัศวินมังกรที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง:

TES4 Oblivion ตอนที่ 28 บุกเข้าไปเอาหินเวทย์มนต์ก้อนใหญ่

ความเดิมตอนที่แล้ว (ตอนที่ 27)

ไปซื้อบ้านหลังแรกมาอยู่อาศัยเอง โดยมีเหตุผลหลักก็คือเอาไว้เก็บข้าวของ แต่บ้านในเกมส์นี้ก็แพงเหลือเกิน จึงซึื้อได้แค่กระท่อมเล็กๆเท่านั้นในตอนนี้

ถึงเวลากลับมาทำภาระกิจหลักในการไปหาหินพลังเวทย์จากซากปรักหักพังแห่งมิสคาร์คานด์ไปให้มาร์ติน

ปะทะซอมบี้ไร้หัว

ซอมบี้ไร้หัว

ดูเหมือนสิ่งที่สิงสถิตย์อยู่ในซากปรักหักพังแห่งมิสคาร์คานด์จะไม่ชอบให้คนมาเยี่ยมเท่าไหร่ นอกจากนี้ยังมีพวกก็อบลิน แต่ก็ดูเหมือนว่าก็อบลินจะเป็นผู้บุกรุกเหมือนกัน เพราะเห็นนอนตายกันเกลื่อน บางครั้งจะเจอพวกทหารโครงกระดูกไล่สังหารพวกก็อบลินอยู่

หินอุดมเวทย์มนต์ยักษ์

หลังจากผ่านเขาวงกต และต่อสู้กับพวกซอมบี้และทหารโครงกระดูก เราก็จะมาถึงห้องเก็บหินเวทย์มนต์ที่ต้องการ …ยืนถ่ายรูปเสียก่อนนิดนึง

พอหยิบขึ้นมาปุ๊บ ผีแห่งมิสคาร์คานด์ก็จะเข้าโจมตี พร้อมกับซอมบี้สองตัว

ของชิ้นสุดท้ายคือ…

ทำไมทุกคนแต่งตัวแบบนี้

พอมาถึงที่ฐานทัพใหญ่ ก็พบว่าทุกคนอยู่ในสภาพที่ตื่นตัวเต็มที่ และมาร์ตินก็บอกว่าของชิ้นสุดท้ายที่จะเปิดทางเข้าสู่โลกเสมือนของโคโมแรน ที่ซ่อนของเครื่องรางแห่งกษัตริย์นั้นคือหินพลังงานยักษ์ที่จะพบได้จากภายในประตูนรกยักษ์

จากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ พวกลัทธิคลั่งอสูรวางแผนจะเปิดประตูนรกยักษ์ขึ้นที่เมืองบรูม่า เพื่อโจมตีฐานทัพของพวกเบลดส์แห่งนี้

และตอนนี้เราจะยอมให้พวกมันทำแบบนั้น เพื่อหาโอกาสเข้าไปชิงเอาหินพลังงานยักษ์มาให้จงได้

หน้าที่ของเราก็คือไปเจรจากับท่านเจ้าเมืองบรูม่าเพื่อให้ตกลงและเตรียมรับการบุกของพวกอสูรที่จะกรูกันเข้ามาถล่มเมืองนี้!

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง:

TES4 Oblivion ตอนที่ 3 ปิดประตูนรก

ประตูนรก

ความเดิมตอนที่แล้ว “ตามหามาร์ติน”

…หนทางเดียวที่จะเข้าเมืองคะวาชท์ ไปช่วยมาร์ตินได้ คือจะต้องปิดประตูนรกนี้ลงเสียก่อน แต่ที่น่าตกใจก็คือเราสามารถเดินทะลุประตูไป หรือวงแหวนแห่งไฟนี้ไปได้ หากจะเข้าไปต้องกดปุ่มเพื่อเข้าไปด้วย

นรกภายในประตู

บรรยากาศของโลกที่ถูกลืมภายในประตูเป็นแบบที่เห็นในภาพ แตกต่างจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง ไม่รู้ว่าพวกปีศาจที่อยู่ในนี้ชอบอยู่กันเข้าไปได้อย่างไร แต่นั่นอาจเป็นเหตุผลว่าพวกมันพยายามยึดครองโลก เพราะเบื่อโลกตุ่นๆ บรรยากาศมาคุของตัวเองเต็มทีก็ได้

สาเหตุที่ก่อนหน้านี้มันไม่สามารถบุกโลกได้ เพราะพลังเวทย์มนต์จากไฟแห่งอาคาทอช แต่พอสิ้นจักรพรรดิ์ลง ไฟก็ดับไป เวทย์มนต์ก็เสื่อม พวกปีศาจเลยขึ้นมาบุกโลกผ่านประตูนรกได้

หนทางสู่การปิดประตูนรก

บุกเข้าไปในหอคอยเพื่อหาทางปิดประตูนรกให้สำเร็จ โดยระหว่างทางจะพบกับทหารที่เหลือรอดอยู่ชื่อไอเล็น โวเนียส แต่ก็ไม่ได้รั้งไว้ให้ไปเป็นเพื่อนกันแต่อย่างใด เพราะดูเหมือนอยากรีบออกไปจากโลกในประตูเต็มที

แต่ก็ทำให้ทราบว่ามีทหารอีกคนถูกจับอยู่ในหอคอย ที่ตอนไปช่วยสำเร็จจะได้กุญแจประตูห้องเก็บหินพลังงานจากศัตรู ซึ่งเป็นสถานที่สุดท้ายของภาระกิจ ซึ่งก็คือการไปเอาหินพลังงาน (sigil stone) ออกจากแท่นวางของมัน ซึ่งจะเท่ากับตัดพลังงานของประตูนรกนี้เสีย แล้วทันใดนั้นประตูก็จะอันตรทานหายไป (ปัญหาก็คือทหารคนที่ถูกจับในหอคอยก่อนหน้านี้เป็นยังไงหว่า???)

เมื่อประตูนรกหายไป เราก็กลับมาอยู่นอกเมือง ซึ่งเมื่อคุยกับซาฟเลียน มาทิอุสแล้ว ก็จะพากันบุกไปยึดเมืองคืนมากัน

ยึดเมืองคืน

เนื่องจากเลเวลของผู้เล่นต่ำ ศัตรูก็เลยกระจอกตามไปด้วย ดังที่เห็นนอนตายเกลื่อนเมืองกันในที่นี้

เมื่อจัดการกับปีศาจที่ยึดเมืองอยู่ลงได้ ก็เข้าไปช่วยคนในโบสถ์ออกมา ซึ่งหนึ่งในคนเหล่านี้คือมาร์ตินที่เราตามหาอยู่ตั้งแต่ตอนที่แล้วนั่นเอง แต่มาร์ตินจะไม่คอยอยู่ที่โบสถ์ เพราะจะถูกนำไปสมทบกับผู้คนด้านนอกที่แคมป์หน้าเมือง

มาร์ติน

ท่านกัปตันซาฟเลียน มาทิอุสขอให้เราช่วยบุกยึดปราสาทคืนต่อ แต่ตอนนี้ยังไม่อยากทำ ก็เลยกลับมาที่แคมป์เพื่อคุยกับมาร์ตินให้รู้เรื่อง

ตอนแรกก็บ่ายเบี่ยงว่าจะไม่บอกอะไรจนกว่าจะกลับหาจ๊วบฟรีได้ แต่มาร์ตินก็เล่นแง่งอแงเลยต้องบอกความจริงไป แต่ดูเจ้าตัวจะไม่ตื่นเต้นอะไร เพราะสิ่งที่บอกว่าเป็นลูกองค์จักรพรรดิ์เลยโดนพวกปีศาจตามล่าก็ฟังขึ้นอยู่

แคมป์นอกเมืองคะวาทช์

มองซ้ายมองขวา เห็นคนในแคมป์เดินไปเดินมา แถมยังมีผู้คนที่เดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือ แต่ภารกิจพามาร์ตินกลับไปหาจ๊วบฟรีที่เวย์นอนไพออไรต้องมาก่อน

อะไรกันอีกละเนี่ย

ทันใดที่กลับมาถึงเวย์นอน ไพออไรด้วยวิธีเคลื่อนย้ายในพริบตา ก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อทั้งเมืองกำลังโกลาหลวุ่นวาย และคนผู้นี้ก็มาบอกว่ามีการจราจลเกิดขึ้นแต่ตนวิ่งหนีออกมาได้

มาร์ตินก็ไม่รอช้า วิ่งเข้าไปตะลุมบอนด้วยเช่นกัน แล้วจ๊วบฟรีเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ ทราบเพียงว่าคงสวดมนต์ภาวนาอยู่ข้างในเท่านั้น!

ตอนต่อไปจะเป็นอย่างไรผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน!

อ่านต่อ TES4 Oblivon ตอนที่ 4 เครื่องรางของกษัตริย์ที่หายไป

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง:

TES4 Oblivion ตอนที่ 2 ตามหามาร์ติน

TES4_Oblivion_20111226_01

(…ความเดิมตอนที่แล้ว)

หลังจากตกลงใจว่าจะช่วยภาระกิจของอาณาจักรในการตามหาลูกขององค์จักรพรรดิ์อูเรียล เซ็บติมที่ไม่มีใครรู้จักชื่อว่ามาร์ติน ซึ่งเป็นนักบวชอยู่ในโบสถ์แห่งอาคาทอชที่เมืองคะวาช ก็ออกเดินทางทันที

ระหว่างทางแวะถ่ายภาพวิวของเมืองหลวงจากบนเนินเขา

TES4_Oblivion_20111226_02

…จนธนูปักที่โล่

ระหว่างทางเจอกับโจรยิงธนูใส่ เลยเอาโล่ขึ้นมารับลูกธนูจนเป็นเม่นอย่างที่เห็น แต่มันไม่เล็งที่เข่า ไม่งั้นคงเกมส์โอเวอร์ไปแล้ว

TES4_Oblivion_20111226_03

…เข้าเมืองคะวาชไม่ได้เพราะมีประตูนรก (Oblivion gate) ขวางทางอยู่

เดินทางกันเป็นวันจากเมืองหลวงมายังเมืองคะวาชทางตอนตะวันตกเฉียงใต้ แต่เข้าเมืองไม่ได้ เพราะอยู่ๆก็มีประตูนรกปรากฎขึ้น เหล่าปีศาจนรกออกมาฆ่าผู้คนตายเป็นเบือ แต่กัปตันซาฟเลียน มาทิอุสเชื่อว่านักบวชที่ชื่อมาร์ตินคือคนที่นำผู้คนเข้าไปหลบกันอยู่ในโบสถ์

หนทางเดียวที่จะช่วยมาร์ตินได้ คือการบุกเข้าไปในประตูนรก และหาทางปิดมันซะ!

อ่านตอนต่อไป: ตอนที่ 3 ปิดประตูนรก

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง:

TES4 Oblivion เพราะธนูปักที่เข่า

TES4_Oblivion_20111221_01

ดังที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ว่ายังเล่นเกมส์ The Elder Scrolls IV: Oblivon ยังไม่จบ ก็ซื้อ TESV: Skyrim มาเล่นซะแล้ว

หากคิดว่าจะเล่นภาค Oblivon ก็ควรใช้ตัวละครที่เล่นเอาไว้แล้ว แต่ผลจากความฮิตของมุกธนูปักที่เข่า ที่ยามเฝ้าเมืองมักบอกว่า “I used to be an adventurer like you. Then I took an arrow in the knee.” ก็เลยคิดว่าจะสร้างตัวละครใหม่ใน Oblivion ให้เป็นพวก “Adventurer” บ้าง (จนกว่าจะโดนธนูปักที่เข่า) ซึ่งก็คงต้องเริ่มเล่นใหม่

TES4_Oblivion_20111221_02

ตัวละครในเกมส์ใหม่ถูกจับอยู่ในคุก โดยจำไม่ได้ว่าทำไมถึงต้องติดคุกด้วย…

TES4_Oblivion_20111221_03

จักรพรรดิ์อูเรียล เซ็บติมถูกพามายังคุกที่เราอยู่โดยหน่วยราชการลับที่ชื่อว่าเบลดส์ (Blades) ขณะกำลังหาทางหลบออกนอกปราสาทผ่านทางอุโมงค์ลับ ที่บังเอิญมีทางเข้าออกอยู่ในคุกที่เราอยู่พอดี

TES4_Oblivion_20111221_04

เราถือโอกาสหลบหนีออกจากคุกตามทางที่ท่านจักรพรรดิ์ใช้ จนกระทั่งมาพบว่าจักรพรรดิ์โดนสังหารต่อหน้าต่อตาเราเสียแล้ว แต่ก่อนที่จะถูกสังหาร ท่านจักรพรรดิ์ได้ฝากสิ่งที่เรียกว่า Amulet of Kings ไว้กับเรา โดยฝากฝังให้นำไปให้จ๊วบฟรี ตามหาลูกลับๆของท่านจักรพรรดิ์ให้ได้

มุ่งไปเวย์นอน ไพออไร

TES4_Oblivion_20111221_05

เราต้องเดินทางลุยออกจากคุกผ่านระบบระบายน้ำ จากนั้นเดินทางบนบกไปตามถนน เพื่อไปยังเมืองแคลรอล เพื่อไปพบกับจ๊วบฟรี (Jauffre) ซึ่งเป็นหัวหน้าใหญ่สุดของพวกเบลดส์ และเป็นคนเดียวที่รู้ถึงการมีอยู่ของลูกลับๆขององค์จักรพรรดิ์

จ๊วบฟรีบอกให้ไปตามหาลูกขององค์จักรพรรดิ์ ที่ใช้ชื่อว่ามาร์ติน ผู้ซึ่งก็ไม่ได้รู้เลยว่าเชื้อสายของตนนั้นเป็นใคร แต่จ๊วบฟรีให้ไปเป็นพระอยู่ที่เมือคะวาช ซึ่งเราก็ต้องไปนำตัวมาที่นี่เพื่อความปลอดภัย

จริงๆแล้วเราจะไม่ทำอะไรพวกนี้ก็ได้ แต่มันก็ถือว่าเล่นไม่จบซะที ก็ต้องเอาซะหน่อย…

TES4_Oblivion_20111221_06

ในภาคนี้เราเห็นตัวละครในหน้าเมนูได้ หากมีธนูปักที่เข่าเมื่อไหร่ จะได้ถ่ายภาพออกมาดูกัน

อ่านตอนต่อไป: ตามหามาร์ติน (2)

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง:

ลิงก์ที่น่าสนใจ: Arwen’s Website on TES Journals