รับปริญญา 2556
ภาพบรรยากาศการรับปริญญา (ภาพจากวันซ้อมรับปริญญาที่คณะวิทยาศาสตร์ ในวันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน 2556)
ถ่ายภาพกับพิมพ์พจี นักศึกษาที่ทำ senior project กับตอนอยู่ปี 4
ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง:
ภาพบรรยากาศการรับปริญญา (ภาพจากวันซ้อมรับปริญญาที่คณะวิทยาศาสตร์ ในวันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน 2556)
ถ่ายภาพกับพิมพ์พจี นักศึกษาที่ทำ senior project กับตอนอยู่ปี 4
ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง:
บังเอิญผ่านไปหน้าตึก K แล้วพบกับพี่อี๊ดพอดีกับที่เวทีสำหรับให้บัณฑิตใหม่มาถ่ายภาพฉลองรับปริญญาเสร็จพอดี เลยช่วยกันขึ้นไปประเดิมก่อนบัณฑิตกัน
ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง:
แอบดูการบ้านวิชาการวาดภาพทางวิทยาศาสตร์ของภาคพฤกษศาสตร์ ในส่วนที่เป็นปฏิบัติการการถ่ายภาพทางวิทยาศาสตร์ นักศึกษาต้องถ่ายภาพทั้งหมด 20 ภาพ แบ่งเป็นประเภทๆดังนี้
เลือกถ่ายภาพที่คิดว่าสวยที่สุด 3 ภาพพร้อมคำบรรยายว่าทำไมถึงชอบ แต่ควรปรับปรุงเรื่องใด บอกค่าการถ่ายภาพ ส่งไฟล์แบบ JPEG เป็นงานเดี่ยวแต่เขียนส่งรวมกันในซีดีแผ่นเดียวกันได้ กำหนดส่ง 6 มีนาคม 2555 ก่อนเวลา 16:00 ในกล่องจดหมายห้องธุรการภาควิชาพฤกษศาสตร์
อ่านแล้วทำให้นึกถึงสมัยเรียนการถ่ายภาพเบื้องต้นที่ศูนย์นันทนาการ ที่ศาลายา (ปัจจุบันโดนทุบไปแล้ว ห้องที่เรียนอยู่ติดกับโรงหนังในตึก)
เว็บไซต์ BBC News นำภาพที่ได้รางวัลจากการประกวดภาพงาน Visualization Challenge มาแสดงให้ดูดังนี้
ที่มา: http://www.bbc.co.uk/news/science-environment-16852264
นั่งสแกนเอกสารด้วย HP Deskjet 1050 ขนาดกระดาษ A4 จำนวน 20 แผ่น แผ่นละสองหน้า รวมแล้วได้ 40 ไฟล์ ซึ่งโปรแกรมที่ให้มาพร้อมกับเครื่องก็ใช้งานสะดวกดี ไม่จำเป็นต้องสแกนเป็นไฟล์ๆ แต่กดสแกนไปเรื่อยๆ โดยต้องเปลี่ยนแผ่นเองอยู่ดี แต่ในตอนท้ายมันจะสร้างไฟล์ทั้งหมดให้พร้อมเรียงตัวเลขให้ตามลำดับโดยอัตโนมัติ
เลือกแบบ 100dpi มันก็เร็วดี แต่ภาพออกมาหยาบเกินไปที่ 88 KB ต่อภาพขนาด A4 ซึ่งก่อนหน้านี้คิดว่าจะแค่ถ่ายภาพด้วยกล้องดิจิตัล A1200 เก็บไว้เฉยๆ
อัพเดท 31 ม.ค. 2555 — ทดลองแบบ 200 dpi บ้างก็ไม่พบว่ามีผลต่อความเร็ว ได้ภาพขนาดประมาณ 400 KB แต่ก็ยังเห็นภาพหยาบๆอยู่เมื่อขยายขึ้นมาดู แต่จะไม่เละเท่าความละเอียดที่ 100 dpi
ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง:
ปู่กับหลาน ณ ศูนย์อพยพหนีอุทกภัยสถาบันพระสังฆาธิการ จังหวัดราชบุรี ที่มีสตูดิโอจิตสาธารณะไปถ่ายภาพให้เป็นขวัญและกำลังใจแก่ผู้อพยพกันถึงในศูนย์ พร้อมแบกอุปกรณ์จัดแสงและฉากหลังไปครบครัน (ยกเว้นเก้าอี้ที่ใช้ของศูนย์อพยพ)
ภาพหลานในชุดไทย (เสียดายเก้าอี้ที่ไม่เข้ากับบรรยากาศ) ชุดที่ใส่นั้นมาจากครูที่โรงเรียนที่ไปเรียนชั่วคราวอยู่นี้
ตอนนี้มีคนไปเรียนอยู่แค่ 3 คน และศูนย์อพยพจะปิดตัวลงในวันที่ 15 ธ.ค. นี้แล้วไม่แน่ใจว่าจะได้ไปเรียนต่อในสัปดาห์หน้ารึเปล่า แต่ถ้ากลับมาแล้วก็ยังไม่แน่ใจว่าโรงเรียนตั้งพิรุฬห์ธรรมจะเปิดเรียนได้หรือไม่
ภาพหมู่ของคนในห้องเดียวกัน
ที่ศูนย์อพยพนี้มีห้องย่อยๆให้ผู้ประสบภัยอยู่อาศัยกัน ห้องหนึ่งจะมีคนประมาณ 15 คน (อาจจะแล้วแต่ขนาดห้อง) ภาพนี้ถ่ายเมื่อวันที่ 19 พ.ย. แต่จำนวนคนในห้องลดลงเรื่อยๆ หลังจากที่ระดับน้ำเริ่มลด
ภาพหน้าจอของเว็บไซต์ของเรมบรานท์ แฟมิลีสตูดิโอ (http://www.rembrandt.co.th/) ตั้งอยู่ที่อำเภอเมืองจังหวัดนนทบุรี และมีอีกหนึ่งสาขาที่รัชดาด้วย
ภาพตัวเองจากสตูดิโอชาร์แดง เดอ ลามูร์ ย่านทองหล่อ
อย่าคิดว่าอยู่ๆผมก็คิดจะไปถ่ายภาพในสตูดิโอด้วยเสื้อผ้าที่เห็นนะครับ เพราะนี่เป็นโครงการสุดบรรเจิดจากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่เหมาสตูดิโอให้ผู้บริหาร หัวหน้างาน และอาจารย์ไปถ่ายภาพในสตูดิโอระดับมาตรฐาน ยกระดับโปรไฟล์ภาพถ่ายของอาจารย์และบุคลากรบนหน้าเว็บไซต์ของคณะวิทยาศาสตร์ ให้กลายเป็นภาพสุดไฮโซ ดูดีมีระดับกันถ้วนหน้า
งานนี้ใครเห็นใครก็ทัก และอาจจะมีการเลียนแบบไปใช้ที่มหาวิทยาลัยอื่นบ้างเราก็คงไม่ว่ากัน ฮิๆ
ทำไมต้องเป็นร้านนี้ก็ไม่ทราบนะครับ แต่ถ้าใครเห็นภาพนักวิทยาศาสตร์ดีเด่นในห้องสมุดสตางค์แล้ว ก็คงจะพอเดาได้ว่าคงมาจากสตูดิโอเดียวกัน บางคนบอกว่าหาซื้อชุดอุปกรณ์มาถ่ายเองที่คณะวิทย์กันเองน่าจะถูกกว่า แต่ผมได้ยินมาว่าเจ้าหน้าที่เราไม่มีเวลา หรือไม่ก็ถ่ายกันเองไม่น่าศรัทธากันเท่าไหร่มั้ง
ว่ากันว่าเราเหมาเขาไว้คนละ 1,700 บาท ซึ่งถือว่าถูกมากๆกับการบริการและผลงานที่จะได้เป็นภาพ 30 ภาพ (ชุดแต่งกายละ 10 ภาพ) ภาพแรกเป็นภาพในชุดเบลเซอร์ ภาพที่สองเป็นชุดขาว และชุดสุดท้ายก็จะเป็นแบบตามใจฉัน หรือในกรณีผมตามใจช่างแต่งตัว
จากคณะวิทย์ ก็เดินข้ามสะพานลอยหน้ารพ.รามาฯ ไปขึ้นมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปสถานี BTS อนุสาวรีย์ แล้วก็ขึ้น BTS ไปลงสถานีทองหล่อ แล้วก็ขึ้นมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปร้านชาร์แดง เดอ ลามูร์ (Jardin DE L’Amour) แถวซอยทองหล่อ 18 เสียค่ามอเตอร์ไซค์ 15 บาท ขากลับก็ทำแบบเดียวกัน วินมอเตอร์ไซค์ก็อยู่ถัดๆไปทางขวาเวลาออกจากร้าน
ก่อนอื่นต้องนัดเวลากับทางร้านโดยการโทรไปนัดหมาย ผมไปถึงก่อนก็เลยต้องนั่งคอย เสร็จแล้วก็ไปแต่งหน้าทำผม แป็บเดียวก็เสร็จเพราะช่างคงไม่ทราบว่าจะต้องทำอะไรมันถึงจะออกมาดีกว่านี้ เสร็จแล้วก็เปลี่ยนชุดที่หนึ่ง ถ่ายๆๆๆ เปลี่ยนชุดที่สอง ถ่ายๆๆๆ เปลี่ยนชุดที่สามแล้วก็ถ่ายๆๆๆ ล้างหน้าล้างตา เปลี่ยนชุดแล้วขึ้นมาคอยดูภาพ (คอยนานกว่าเวลาทั้งหมดที่ว่ามารวมกัน)
ตามแพคเกจของพวกเรานั้น จะได้ภาพอัดขยายใหญ่ฟรีภาพนึง ผมเลือกภาพที่โชว์ให้ดูนี้ แต่ไม่ยอมเสียตังค์ค่ากรอบรูปสามพันกว่าบาท เหลือแค่วันไปเอารูป ก่อนกลับก็ขอดูดภาพใส่แฟลชไดร์ฟกลับมาดูเล่น
ลิงก์ของทางร้านชาร์แดง เดอ ลามูร์ http://www.jardinbridal.net
อยู่ๆฝนก็ตกลงมาในบ่ายวันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันหยุดชดเชยวันปิยมหาราช ทุกคนก็เลยอยู่บ้าน ผมก็เลยชวนหลานออกไปเล่นน้ำฝน พร้อมกับถือกล้องออกไปด้วย หลานออกไปเล่นโดยถือร่มไปด้วยในตอนแรก แต่ก็เปลี่ยนเป็นยอมเปียกในภายหลัง แต่ผมถือร่มไปมาตลอด เดินวนเวียนอยู่หน้าบ้าน และแถวๆนั้นหาอะไรถ่ายภาพไปเรื่อยๆ สักสิบกว่าภาพก็กลับเข้าบ้าน กล้องก็เปียกละออกฝนเล็กน้อย ก็เลยวางทิ้งผึ่งลมเอาไว้ ก่อนจะเอาภาพมาโพสต์ลงบลอกที่เห็น